รู้หรือไม่…การจอดรถยนต์อย่างไรให้ดูใหม่เสมอ

ผู้เขียนข้อความ

KCAR

member
เขียนกระทู้: 40
ตอบกระทู้: 23
พลังน้ำใจ: 0 (ขอบคุณ)
26 กันยายน 2560 13:39 - อ่าน: 4,564 - ตอบ: 0

     สวัสดีครับท่านผู้รักรถยนต์ทุกท่าน ช่างแอด โตโยต้ากรุงไทย กลับมาพบกันอีกครั้งพร้อมกับ สาระความรู้รถยนต์ และ เกร็ดความรู้รถยนต์ ซึ่งครั้งนี้ ช่างแอด ก็มาพร้อมกับความรู้ด้านรถยนต์ในส่วนของเรื่อง การจอดรถยนต์อย่างไรให้ดูใหม่เสมอ โดย ช่างแอด ก็มีข้อปฎิบัติมาแนะนำกันดังนี้ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างต้องไปติดตามกันเลยครับ

 

     ซึ่งอันที่จริงแล้ว ช่างแอด ก็อยากจะแนะนำด้วยนะครับว่า สิ่งที่ท่านผู้รักรถยนต์จะต้องดูนั้นมีอยู่ 6 เรื่องด้วยกันนั้นก็คือ แบตเตอรี่รถยนต์, ของเหลวต่างๆในรถยนต์, ลมยางและยางรถยนต์, ระบบต่างๆภายในเครื่องยนต์, สีรถยนต์ และ สถานที่ในการจอดรถยนต์ ส่วนแต่ละข้อจะมีอะไรบ้างนั้นต้องไปดูกันครับ

 

     1. แบตเตอรี่รถยนต์ หลายท่านอาจเคยเจอปัญหา รถยนต์ไม่ค่อยได้ใช้ พอจะกลับมาใช้งานทำไมแบตหมด แบตเสื่อม ไม่มีประจุ ช่างแอด ต้องขอบอกตรงนี้ก่อนว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ก็ตาม แต่ในความจริงแบตเตอรี่ก็ยังคงมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงระบบในรถยนต์อยู่นะ ตัวอย่างเช่น ระบบสัญญาณกันขโมย หรือ ระบบควบคุม (ECU) ซึ่งถ้าหากจอดรถยนต์ไว้โดยไม่มีการติดเครื่องยนต์เป็นระยะเวลานานก็ทำให้แบตเตอรี่หมดประจุได้ เมื่อแบตเตอรี่หมดประจุก็ต้องมีการพ่วงเพื่อสตาร์ท ซึ่งถ้าปล่อยให้แบตหมดแล้วพ่วงอยู่บ่อยๆ ก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ครับ ดังนั้นแล้ว ช่างแอด แนะนำวิธีแก้ไว้ว่า หากท่านไม่ค่อยได้ใช้รถยนต์ก็แนะนำให้มีการสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ 10 นาทีหรือมากว่า อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือหากทำได้ทุกวันก็จะดี เป็นการช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ครับ

 

     2. ของเหลวต่างๆในรถยนต์ จริงๆแล้วถ้าหากรถยนต์ไม่ค่อยได้ใช้งานมากเท่าไหร่แล้ว เมื่อท่านกลับมาให้งานก่อนจะออกจากบ้าน ช่างแอด แนะนำว่าให้ทำการเช็คของเหลวต่างๆ ในรถยนต์ของเราก่อนครับ ว่าพร้อมใช้งานมากน้อยขนาดไหน เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อน้ำ เพื่อหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดสนิมนั่นเองครับ ในส่วนของการเช็คระยะที่ทาง โตโยต้า ได้กำหนดโดยทั่วไปเราจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกันทุก 5,000 กิโลเมตร หรือ 10,000 กิโลเมตร แต่สำหรับคนที่ใช้รถยนต์น้อยๆ หากอ้างอิงตามระยะทางในระยะเวลาปีหนึ่งอาจจะไม่ได้ถ่ายน้ำมันเครื่องเลย ดังนั้นต้องอ้างอิงตามระยะเวลา โดยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 6 เดือน หรือตามที่คู่มือกำหนด อย่าคิดว่าไม่ได้ใช้แล้วจะไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพราะน้ำมันเครื่องก็มีวันหมดอายุและเสื่อมสภาพด้วยตัวเองได้เหมือนกัน หากปล่อยไว้นานจนน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพและนำรถยนต์มาใช้งาน เครื่องยนต์จะมีการสึกหรอมากกว่ารถยนต์ที่ใช้งานทุกวันเสียอีก

 

     3. ลมยาง และ ยางรถยนต์ ในส่วนนี้หากท่านต้องจอดรถยนต์เอาไว้เป็นระยะเวลานานๆ แนะนำให้เติมลมยางมากกว่าปกติประมาณ 5-10 ปอนด์/ตารางนิ้ว หรือถ้าเป็นไปได้ ช่างแอด อยากจะแนะนำให้นำรถไปขับเคลื่อนที่ เพื่อให้ยางได้หมุนบ้าง เพราะการจอดรถยนต์อยู่กับที่นานๆ เช่น มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป จะทำให้เกิดอาการยางไม่คืนตัว โดยเกิดการยุบตัวของโครงยางส่วนหน้า ที่สัมผัสกับพื้นได้ เนื่องจาก น้ำหนักของตัวรถยนต์ทั้งหมด จะตกสู่ยางแต่ละเส้นในจุดเดียว ทำให้โครงยางเสียรูป ไม่กลม เมื่อนำรถยนต์ไปขับขี่ภายหลัง อาจทำให้เกิดอาการสั่นเต้นและเกิดเสียงดังผิดปกติได้ หากเป็นไปได้ วิธีที่ดีที่สุดในกรณีที่ต้องจอดรถทิ้งไว้นานเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปนั้น ขอแนะนำให้ยกรถตั้งบนแท่นวางทั้ง 4 ล้อ ซึ่งทำให้น้ำหนักรถไม่กดทับลงบนยาง เป็นการรักษารูปร่างของยางได้ดีที่สุดครับ

 

     4. สตาร์ทเครื่องยนต์ ท่านผู้รักรถยนต์ควรที่จะพารถยนต์ของท่านออกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง เรื่องของระบบต่างๆภายในเครื่องยนต์ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามนะครับ ว่าควรสตาร์ทเครื่องยนต์เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานและชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่บ้าง แต่อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก้อคือ ควรจะพาไปขับเพื่อยืดเส้นยืดสายบ้าง เพราะเนื่องจากในรถยนต์นั้นมีชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เป็นจุดหมุน เช่น ระบบช่วงล่าง ลูกหมากต่างๆ แม้กระทั่งยางและล้อ หากปล่อยให้อยู่กับที่นานๆไม่มีการขยับตัวก็อาจเกิดอาการเส้นยึดได้ และอาจทำให้เกิดการสึกหรอได้ง่ายกว่ารถยนต์ที่ใช่งานประจำ แนะนำให้มีการขับเพื่อยืดเส้นยืดสายช่วงล่างของรถยนต์บ้างเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน

 

     5. การทำความสะอาดรถยนต์ เพื่อไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกเกาะอยู่ที่สีรถยนต์นานเกินไปจนยากที่จะล้างออก ควรมีการทำความสะอาดรถยนต์ก่อน จึงค่อยคลุมผ้าคลุมรถยนต์ เพื่อป้องกันฝุ่นและรักษาสีของรถยนต์ ให้ดูเหมือนใหม่

 

     6. สถานที่ในการจอดรถยนต์ จริงๆแล้ว ท่านผู้รักรถยนต์ควรที่จะจอดรถยนต์ในที่ร่ม หลีกเลี่ยงการจอดรถยนต์ใต้ต้นไม้และสถานที่เปียกชื้น ใกล้ถังขยะ เพราะอาจมีโอกาสที่หนูเข้ามาอาศัยหรือทำรังใต้กระโปรงรถได้ หากจอดรถยนต์ใต้ต้นไม้จะต้องระวังให้มากหากไม่ได้มีการคลุมรถยนต์ เนื่องจากต้นไม้จะมียางของต้นไม้ที่จะหล่นลงมา ทำให้สีรถยนต์ของท่านอาจจะด่างได้ รวมถึงกิ่งไม้ที่ตกลงมาตามแรงลม หรืออื่นๆ ซึ่งอาจทำให้รถยนต์ของเราเกิดรอยขีดข่วนได้

 

     เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับ เกร็ดความรู้รถยนต์ และ สาระความรู้รถยนต์ ที่ ช่างแอด โตโยต้ากรุงไทย นำมาเสนอในครั้งนี้ จริงๆ แล้ว ช่างแอด ยังมี สาระความรู้รถยนต์ ที่จะมาแนะนำอีกมากมาย ท่านผู้รักรถยนต์ สามารถติดตาม ช่างแอด ได้ที่ช่องทาง : www.toyotakrungthai.com  ที่ช่อง เกร็ดความรู้รถยนต์ ได้ครับ

 

=================================

 

ท่านสามารถเช็กโปรโมชั่นรถดีๆ คลิกเลย : โปรโมชั่นรถโตโยต้า

 

ท่านสามารถนำรถเข้ารับการดูแลกับเราได้ที่ : ศูนย์บริการและอะไหล่ โตโยต้า กรุงไทย

 

ท่านสามารถนำรถของท่านมาซ่อมสีและตัวถังรถของท่านได้ที่ : ศูนย์ซ่อมตัวถังและสี โตโยต้า กรุงไทย

แก้ไขล่าสุดโดย KCAR เมื่อ 19 กรกฏาคม 2561 - 12:03

กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง


ตอบกระทู้ด่วน

กรุณาล็อคอินก่อนทำการตอบกระทู้นี้
สมัครสมาชิก หรือ ล็อคอิน