10 อันดับ สัตว์เลี้ยง แสนแปลก (แต่น่ารัก)

ผู้เขียนข้อความ

siritidaphon

member
เขียนกระทู้: 1,318
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0 (ขอบคุณ)
5 กรกฏาคม 2561 20:59 - อ่าน: 5,937 - ตอบ: 0

เจ้าตัวนี้อาจจะมีคนรู้จักน้อยกว่าเพื่อนๆ ในอันดับอื่นๆ แน่นอน เพราะมันยังใหม่ มันถูกนำเข้ามาจากแอฟริกา ซึ่งมองภายนอกมันเหมือน “แมว” เรียกว่าเป็นแมวป่าก็คงไม่ผิดนัก ราคาค่างวดก็แค่ 20,000 อัพเท่านั้นเอง นิสัยส่วนตัวชอบอยู่โดดเดี่ยว ชอบปีนป่ายตามต้นไม้ กินพวกสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร ผลไม้บางชนิดก็กินนะ

อัตราความน่ารัก : 3 ดาว

อันดับ 9 เต่าเสือดาว

ปัจจุบันเต่าเสือดาวแอฟริกาใต้เป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก เต่าชนิดนี้สามารถเติบโตจนมีขนาดกระดองยาวได้ถึง 23 นิ้ว เต่าเสือดาวแอฟริกาใต้มีลักษณะเฉพาะอีกประการหนึ่ง คือผิวหนัง”ตกกระ”พวกมันจะมีจุดดำเล็กๆกระจายตามผิวหนัง กระนี้เห็นได้ชัดในลูกเต่าที่เพิ่งฟักจากไข่และเต่าวัยอ่อนก่อนจะค่อยๆเลือนหายไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เต่าเสือดาวต้องการคอกเลี้ยงที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และควรจัดให้อยู่กลางแจ้งเสมอหากสภาพอากาศอำนวย หากอยู่ตามธรรมชาติจะเป็นสัตว์สันโดษและจะก้าวร้าวอาศัยต้องอยู่ร่วมกันอย่างแออัด เมื่อนำหลายตัวอยู่ด้วยกันต้องมีห้องหรือที่กำบังอย่างเพียงพอเพื่อให้พวกมันเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตัวอื่นๆ และไม่ควรนำตัวผู้มาอยู่รวมกันเพราะพวกมันจะต่อสู้กันเพื่อแย่งสิทธ์ในการผสมพันธุ์ ด้วยความที่มันต้องการพื้นที่เยอะ และราคาที่สูงที่สุด บางตัวขายกันมากกว่า 250,000 บาทกันเลยทีเดียว และเนื่องด้วยมันเป็นเต่าที่มจากแอฟริกา อาหารหลักของมันจึงเป็นหญ้าครับ แต่ถ้าจะให้ผักเหมือนเต่าทั่วไปก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา และนกเหนือจากนั้นหากมีการเสริมแคลเซียมให้เต่าด้วยก็จะเป็นการดีมากครับ

อัตราความนารัก : 4 ดาว

อันดับ 8 ชูก้าไกลเดอร์เผือก

เหตุที่มีคนสนใจน้อยเพราะราคามัน “สูง” กว่าชูก้าธรรมดาหลายเท่าตัว ซึ่งราคาปกติจะขายกันที่ 25,000 บาท แต่ด้วยความน่ารักของมันแล้วจึงทำให้เริ่มมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากขึ้น

อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 7 ชินชิล่า

ชินชิลล่า เป็นสัตว์ป่าซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเทือกเขา Andes ในแถบอเมริกาใต้ แถบประเทศอาเจนตินา โบลิเวีย ชิลี และเปรู ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง เมื่อปี ค.ศ.1810 และสามารถเพาะขยายพันธุ์ในกรงเลี้ยงได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อปี ค.ศ.1900 ชินชิลล่าเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีหูกางใหญ่คล้ายหนู ขนาดรูปร่างคล้ายกับกระต่าย ขนมีลักษณะแน่นและหนา เพื่อป้องกันตัวเองจากอากาศหนาวเย็นบนเทือกเขาสูง อุ้งเท้าออกแบบมาเพื่อการเดินบนแผ่นหิน มีหลากหลายสีสันเช่น สีเทา สีเทาอ่อน สีดำ หางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก ซึ่งคนทั่วไปคิดว่ามันเป็นหนูธรรมดา และราคาที่แพงไม่ใช่เล่นตกค่างวด 13,000 บาท จึงทำให้มันเป็นที่หมายปองแต่ไม่ซื้อไปเลี้ยงมากเท่าตัวอื่น และเนื่องจากนิสัยตามธรรมชาติของชินชิลล่าจะเป็นสัตว์ที่กระตือรือร้นและชอบสำรวจ ดังนั้นผู้เลี้ยงต้องดูแลเอาใจใส่และควรจะพาออกไปเดินเล่นนอกกรงอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เพื่อออกกำลังกายและลดความเครียดของเค้าครับ

อัตราความน่ารัก : 5 ดาว

อันดับ 6 เฟนเน็คฟ็อกซ์

เป็นจิ้งจอกที่เล็กที่สุดในโลกแห่งทะเลทรายซาฮารา กินอาหารทั้งพืชและสัตว์ ดำรงชีวิตอยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้ง ขนที่อุ้งเท้ามีความหนาเป็นพิเศษเพื่อให้พวกมันสามารถเดินบนทรายที่ร้อนระอุได้ ขนสีน้ำตาลอมส้มช่วยให้สามารถอำพรางตัวได้ดีในทะเลทราย วิธีการเลี้ยงสำหรับคนที่ไม่เคยเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์มาก่อน ขั้นตอนง่ายๆ เหมือนกับการเลี้ยงสุนัขทั่วไป มีอุปกรณ์พื้นฐานได้แก่ กรงเลี้ยง ถ้วยอาหาร กระบอกขวดน้ำ และอาหารเม็ด อาจเสริมด้วยเนื้อไก่ต้ม เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายแต่ต้องอยู่ในความดูแลเพราะเป็นสุนัขจิ้งจอกพันธุ์เล็ก มีกระดูกอ่อน ดั้งนั้นจึงเล่นขย้ำเหมือนสุนัขทั่วไปไม่ได้เพราะอาจจะทำให้เกิดกระดูกหักได้ ข้อควรระวังสำหรับเฟนเน็คฟ็อกซ์ คือเรื่องกระดูกที่หักเปราะง่ายและอาการท้องเสียเนื่องจากอาหารที่ผู้เลี้ยงให้ ทั้งต้องระวังเรื่องของเชื้อโรค หากยังให้วัคซีนไม่ครบซึ่งในระยะนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะว่าเฟนเน็คฟ็อกซ์สามารถติดโรคที่อยู่ในเมืองได้ง่าย เนื่องจากในป่าไม่ค่อยมีโรค ไม่มีไข้หัด ไม่มีลำไส้อักเสบ ราคาค่าตัวของมันทำให้หลายๆ คนได้แต่ฝัน เพราะคู่ละ 100,000 บาท T^Tเฟนเน็คฟ็อกซ์มีความว่องไวเหมือนพังพอนสามารถจับแมลงได้อย่างรวดเร็ว สามารถกินงูหางกระดิ่งได้ หรือกินแมงป่องที่มีพิษได้เพราะเคลื่อนไหวเร็วกว่า เฟนเน็คฟ็อกซ์ จะตะปบจนเหล็กในหลุดหรือหักก่อนแล้วถึงจะกิน บางทีก็อาจจะกินลูกหนูขนาดเล็ก หรือไข่นกที่วางอยู่ตามพื้น เขาจะได้กินน้ำจากพืชเป็นส่วนใหญ่ อย่างพวกตระกูลตะบองเพชรเพราะในทะเลทรายหาน้ำยาก เขาก็จะกินน้ำจากพืชที่พอหาได้ ซึ่งพฤติกรรมตามธรรมชาติแล้วจะหากินแยกกันเป็นคู่และไม่ออกล่าเป็นฝูงอย่างที่เราเคยเห็น

อัตราความน่ารัก : 3 ดาว

อันดับ 5 เมียร์แคต

จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีขนาดลำตัวเล็ก น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม เมียร์แคตมีอุ้งเล็บที่มีลักษณะโค้งเพื่อใช้ในการขุด และมีจมูกไวมาก มีขนสั้นสีน้ำตาล มีขนเป็นแนวเส้นขนานพาดข้ามหลัง อาศัยและหาอาหารในโพรงดินที่ขุดขึ้น ที่คนชอบเพราะเลี้ยงง่าย เหมือนน้องหมา สามารถฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่ได้สบายๆ ทานอาหารน้องหมาได้ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงตกตัวละประมาณ 30,000 บาท ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง และมีความสามารถในการขุดโพรงสูงเชียวแหละ ใครอยากเลี้ยงต้องดูดีๆนะครับ

แก้ไขล่าสุดโดย siritidaphon เมื่อ 5 กรกฏาคม 2561 - 21:01

กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง


ตอบกระทู้ด่วน

กรุณาล็อคอินก่อนทำการตอบกระทู้นี้
สมัครสมาชิก หรือ ล็อคอิน