ผู้เขียน | ข้อความ | ||
---|---|---|---|
tamagotjigo
เขียนกระทู้: 14
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0
(ขอบคุณ)
|
Highlight EA ออกกรีนบอนด์ 3,000 ล้านบาท เปิดขายให้ เอดีบี ดอกเบี้ย 2.744% ต่อปี อายุ 7 ปี นำเงินไปจ่ายหนี้ ทำให้ต้นทุนการเงินลดลง มองผลงานปี 62 เป็นไปตามแผน นายคริสโตเฟอร์ ธีม รองผู้อำนวยการสำนัก ปฏิบัติการภาคเอกชน ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี กล่าวว่า ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี ลงทุนในหุ้นกูhเพื่อสิ่งแวดล้อม (green bond) มูลค่า 3 พันล้านบาท หรือ 98.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ชึ่งออกโดยบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA
"ประเทศไทยมีศักยภาพที่ดีสำหรับการส่งเสริมการลงทุนในตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากประเทศไทยมีแหล่งพลังงานทดแทนที่เหมาะสม นอกจากนั้น การออกหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมของ EA ในครั้งนี้ จะสนับสนุนการวิวัฒนาการของตลาดพันธบัตร ในขณะเดียวกัน เป็นการส่งเสริมการไปถึงเป้าหมายพลังงานละอาดโดยการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมให้เติบโตขึ้นภายใต้ แผนพัฒนาพลังงานของประเทศไทย" นายธีมกล่าว
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า บริษัทเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 3/2562 มูลค่า 3,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.744 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ของบริษัทเป็นตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) โดยการออกหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมในครั้งนี้ เพื่อนำไปชำระหนี้ของ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “หนุมาน” ซึ่งมีกำลัง 260 เมกะวัตต์ โดยจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทปรับลดลง “เราได้ก้าวต่อไปอีกขั้นในการเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสิทธิบัตรและนวัตกรรมในการผลิตพลังงานสะอาดและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ระบบการกักเก็บพลังงาน ยานพาหนะ ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (electric vehiclas) สถานีอัดมอเตอร์ไฟฟ้า เรือข้ามฟากที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า นอกจากนั้นบริษัทกำลังเตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มการค้าขายพลังงาน ซึ่งเป็นผลจากการศึกษา และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีของเราเอง"นายอมรกล่าว
ขณะที่การดำเนินงานของ EA ในปี 2562 ผ่านมาแล้ว 10 เดือน ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ครบทุกโครงการ ซึ่งโครงการพลังงานลมปี 2562 มีครบ 386 เมกะวัตต์ ดังนั้นเชื่อว่าภาพรวมปี 2562 จะเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ทั้งในแง่ของการเติบโต และการดำเนินงานของแต่ละโครงการ ทั้งนี้การติดตั้งสถานีจ่ายไฟฟ้า ขณะนี้ติดตั้งไปแล้วมากกว่า 500 สถานี จากเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น 1,000 สถานี ส่วนการเดินเรือไฟฟ้า จะดำเนินการทดลองเดินเรือจำนวน 2 ลำแรกภายในปี 2562 และคาดว่า ปี 2563 จะอยู่ที่จำนวน 40 ลำ
ส่วนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า ก็คาดว่าจะออกสู่ตลาดในปี 2563 ตามแผน ด้านธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล มองว่าปี 2563 จะได้รับปัจจัยบวก จากภาครัฐมีมาตรการผลักดัน B10 และ B20 มากขึ้น ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงถือเป็นผลดีต่อธุรกิจ ขณะนี้โครงการอื่นๆ ในต่างประเทศ ยังไม่มีความคืบหน้า หากมีความชัดเจนจะรายงานให้ทราบอีกครั้งภายหลัง
http://www.wealthythai.com/web/contents/WT191000197 กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
|
||