ผู้เขียน | ข้อความ | ||
---|---|---|---|
tiresbid
เขียนกระทู้: 135
ตอบกระทู้: 1
พลังน้ำใจ: 0
(ขอบคุณ)
|
สวัสดีครับ คุณผู้อ่านและคุณลูกค้าทุกท่าน จอร์จไทร์บิด ผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ ยินดีต้อนรับครับ เพื่อนๆใช้รถมาระดับ 10 ปี แล้ว คงโอกาสเริ่มพบอาการกำลังตก เดินไม่เรียบ กระตุก เร่งไม่ค่อยขึ้น กินน้ำมัน หรือกินแก๊สมากกว่าเดิม ฯลฯ บางครั้งอาจเป็นเพราะ หัวฉีดเริ่มมีการอุดตัน ทำให้น้ำมัน-แก๊สที่ถูกฉีดผ่านหัวฉีดออกมามีปริมาณไม่เพียงพอครับ แต่ไม่ใช่แค่นั้น จอร์จ จะมาอธิบายเพิ่มเติมว่าควรแก้ไขอย่างไรและอะไรคือสาเหตุหลัก ส่วนสาเหตุหลักๆ ก็มาจากตัวน้ำมันกับแก๊สที่เราใช้ ซึ่งถึงแม้จะมีตัวกรองน้ำมัน-กรองแก๊สอยู่ในระบบ แต่ถ้ารถยนต์ที่คุณใช้มีระยะทางเกิน 100,000 กิโลเมตรแล้ว มันก็จะมีคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ไปจับ ไปเกาะที่ตัวหัวฉีดได้นั่นเอง ส่วนวิธีแก้ไขปัญหานี้ก็ทำได้ไม่ยาก มีให้เลือก 2 ทาง ดังนี้ 1. ใช้น้ำยาล้างหัวฉีด ใส่เติมเข้าไปที่ถังน้ำมัน เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ โดยปล่อยให้มันไหลเวียนอยู่ในระบบเดียวกันกับน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะทุกครั้งที่มีการฉีดจ่ายน้ำมัน สารทำความสะอาดตัวนี้ก็จะถูกฉีดไปล้างคราบสิ่งสกปรกต่างๆ ให้หลุดออกไปจากหัวฉีด 2. ถอดล้างแบบเต็มระบบ โดยใช้เครื่องล้างหัวฉีด วิธีนี้ถือว่าดีกว่าแบบแรก เพราะคุณจะเห็นทุกขั้นตอนตั้งแต่การทดสอบหัวฉีดก่อนล้าง การฉีดแต่ละหัวเป็นยังไง หัวไหนตันมากตันน้อย และปริมาณน้ำมันที่ถูกฉีดออกมาแต่ละหัวแตกต่างกันเท่าไร จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการล้างด้วยเครื่องมือพิเศษ ซึ่งในขั้นตอนนี้พวกสิ่งสกปรกต่างๆ คราบยางเหนียวๆ ที่ติดอยู่กับหัวฉีดจะหลุดออกมา สุดท้ายทำการทดสอบความสะอาด เพื่อดูการฉีดของแต่ละหัว ว่าเป็นฝอยละอองแล้วหรือยัง รวมไปถึงปริมาณของเชื้อเพลิงที่ถูกฉีดออกมา มีระดับเท่ากันทั้งหมดหรือไม่ (หัวฉีดที่ดีต้องฉีดเชื้อเพลิงออกมาเท่าๆ กัน) เสร็จแล้วจึงติดตั้งกลับเข้าที่เดิม ทั้ง 2 วิธีนี้อาจมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันพอสมควร เพราะข้อแรกลงทุนแค่หลักร้อย ส่วนข้อที่ 2 มีถึงหลักพันแน่นอน แต่ถ้าไม่มั่นใจ อยากเปลี่ยนใหม่ไปเลยเพื่อความสบายใจ ก็เตรียมตังค์ไว้เกือบๆ หมื่น หรือหมื่นกว่าๆ เพราะหัวฉีด 1 หัว ราคาก็ปาเข้าไปพันกว่าๆ จนถึง 4 พันบาท (แล้วแต่ยี่ห้อรถรุ่นนั้นๆ และค่าบริการอู่ซ่อม) สำหรับวิธีที่นำเสนอทั้ง 2 ข้อนี้ วิธีที่ 1 เพื่อนๆสามารถทำได้เองง่ายๆ แค่ไปซื้อน้ำยาล้างหัวฉีดมา แล้วก็ใส่เติมเข้าไป แต่วิธีที่ 2 แนะนำให้เข้าอู่เข้าร้านดีกว่า เพราะมันสะดวกสบาย ไม่ต้องเปลืองแรง และเวลา แต่ถ้าอยากทำเอง ไม่อยากเสียเงินเยอะ ครั้งหน้าเราจะหาวิธีทำมาให้คุณได้ลองทำแน่นอน New Group : TIRESBID-ONLINE ชวนเข้าร่วมกลุ่ม แชร์ประสบการณ์ & ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ร่วมเลย : https://www.facebook.com/groups/tiresbidonline/ New Chat : Tiresbid Line Square ห้องแชทแห่งความลับ แชร์ถาม-ตอบ เรื่องยางแบบส่วนตัว คลิกเลย : http://bit.ly/LINESQUARE-TIRESBID New Channel : Tiresbid on YouTube ชวนมากด Like & Subscribe กันเยอะๆนะครับ คลิกเลย : http://bit.ly/TiresbidYoutube หากลูกค้าไทร์บิดหายห่วงเลยครับ จอร์จ บริการช่วยเหลือประสานงาน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญยางรถยนต์ได้ตลอดเวลาทำการฟรี หรือ สนใจเช็คราคานัดหมายติดต่อซื้อยางง่ายดายสุดๆ ผ่านทาง Line Official : @tiresbid ได้เลยครับ หากไม่สะดวกพิมพ์อยากคุยกันมากกว่า โทรมาเลย : 090-958-7416 / 090-986-8762 คุยง่าย แนะนำดี ไม่ผิดหวัง วันนี้ก็ขอตัวแล้วครับโอกาสหน้าเรากลับมาเจอกันใหม่ครับ ส่งท้ายหากเพื่อนต้องการ ให้จัดหายาง สั่งยี่ห้อใดรุ่นใด ไซส์ใดเป็นพิเศษ สนใจแจ้งเข้ามาได้เลยครับ จอร์จและทีมงานยินดีให้บริการเต็มที่ ขอบคุณครับ ยางรถยนต์ราคาถูก, ยางราคาถูก, ราคายางรถยนต์, เปลี่ยนยางรถยนต์, เปลี่ยนยางรถยนต์ราคา, ร้านขายยาง, ร้านยางรถยนต์, ราคายาง maxxis, ราคายาง dunlop, ราคายางมิชลิน, ราคายางบริสโตน, ยาง hankook ยาง goodyear, Continental, Firestone, BFGoodrich, ยาง apollo, Lazada, shopee, เช็คราคายางถูก, ศูนย์รวมร้านขายยาง, ร้านขายยางคนไทย, ยางออนไลน์, Toyota, Honda, Mazda, Mitsubishi, Ford, Nissan, Chevrolet, Hyundai, Isuzu, BMW, Benz, Volvo, Landrover, Audi, Porsche, Volkswagen, โปรโมชั่นยางรถยนต์, เช็คราคายางรถยนต์, ราคายางล่าสุด, ยางรถยนต์ออนไลน์, ยางถูก, ยางมิชลิน, ยาง dunlop, ยาง maxxis, ยางบริสโตน, tiresbid, เปลี่ยนยางถึงบ้าน, michelin, bridgetone, เช็คราคายางรถยนต์, ยางรถยนต์ราคา, ยางถูก, ยางรถ และ เปลี่ยนยางไทร์บิด, ยาง continental, continental, goodyear, ยางดันลอป, ยางฮันคุก, ที่ 1 เรื่องยาง, เปลี่ยนยางถึงที่, เปลี่ยนยางถึงบ้าน กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
|
||