เคล็ดลับใช้แอร์รถยนต์ ให้เย็นฉ่ำ ปลอดภัย ที่ช่างแอร์ไม่เคยบอก

ผู้เขียนข้อความ

smanpruksa

member
เขียนกระทู้: 82
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0 (ขอบคุณ)
15 พฤษภาคม 2563 11:21 - อ่าน: 5,333 - ตอบ: 0

ช่วงนี้เราต้องเจอกับอากาศร้อนจัด เมื่อขับรถอยู่บนถนนตอนกลางวันที่แดดร้อน ๆ เราต้องแอร์ที่เย็นฉ่ำในรถเพื่อคลายร้อน แต่ก็กังวลเรื่องความสะอาดของอากาศภายในรถจากการระบาดของไวรัส โควิด-19 (Covid-19) แล้วเราจะมีวิธีดูแลแอร์รถยนต์ช่วงนี้อย่างไร ให้ทั้งเย็นฉ่ำ และสะอาดปลอดภัยห่างไกลจากเชื้อโรค จึงมีเคล็ดลับดูแลแอร์รถในช่วงนี้มาแนะนำกัน

การดูแลรักษาแอร์ให้เย็นฉ่ำ และ ปลอดภัยห่างไกล โควิด-19

  1. ต้องปิดสวิตซ์แอร์ ก่อนสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง หากเปิดไว้จะฉุดการทำงานคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ ต้องเปิดแอร์หลังจากสตาร์ทเครื่องไปแล้วทุกครั้ง
  2. หากขับรถอยู่โดยไม่เปิดแอร์ ก็ไม่ควรเปิดตอนเครื่องยนต์หมุนด้วยความเร็วรอบสูง  เกิน 3,000 รอบ/นาทีเพราะจะทำให้น้ำมันหล่อลื่นไหลซึมใต้ท้องรถเมื่อจอดรถ และอาจส่งทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อื่นเสียหาย ชำรุดได้  ฉะนั้นจึงควรเปิดแอร์ให้คอมเพรสเซอร์ให้ทำงานครั้งแรก หรือเปิดแอร์ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำเสียก่อน ประมาณ 10-15 วินาที  ก่อนถึงจะเร่งเครื่องยนต์
  3. หลังจากสตาร์ทรถไปสัก 2 นาที ค่อยเปิดสวิตช์ A/C ให้เปิดเพียงพัดลมแอร์สูง ๆ ก่อนเป็นการไล่ความร้อนในรถ ทำให้ระบบแอร์ระบายความร้อนออกไปจากนั้นค่อยปรับอุณหภูมิแอร์ในรถให้เย็นฉ่ำตามต้องการ
  4. ถ้าอากาศเย็นเกินไปให้ใช้วิธีปรับอุณหภูมิให้เพิ่มขึ้น อย่าปิดช่องแอร์เพราะคอมเพรสเซอร์จะได้ไม่ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
  5. ถ้าอากาศในรถร้อนมาก โดยเฉพาะรถที่จอดตากแดดนาน ๆ ให้เปิดลมเป่าในรถแบบแรงสุดโดยอย่าพึงเปิดสวิตช์แอร์ให้ไล่ลมร้อนไปสัก 5 นาทีค่อยเปิดจะทำให้ความร้อนออกไป จากนั้นก็ค่อยเปิดสวิตช์ A/C และปรับแอร์ตามที่ต้องการจะทำให้แอร์รถไม่ทำงานหนักจนเกิดไป และยังช่วยลดกลิ่นอับในรถได้อีกด้วย หรือจะใช้เทคนิคระบายความร้อนในรถที่จอดกลางแดดก่อนสตาร์ทและเปิดแอร์ ด้วยการ เปิดกระจกฝั่งคนนั่งลงให้สุด เปิด - ปิด ประตูฝั่งคนขับประมาณ 5 ครั้ง โดยที่ไม่ต้องปิดสนิท แค่พับเข้าพับออกเท่านั้น และปิดกระจกฝั่งคนนั่ง สตาร์ทรถและเปิดแอร์ตามปกติ เท่านี้ก็จะช่วยลดอุณหภูมิภายในรถได้อย่างรวดเร็ว
  6. ห้ามเปิดกระจกรถโดยไม่จำเป็น เนื่องจากการเปิดกระจกรถบ่อย ๆ จะทำให้ความเย็นในรถออกไปข้างนอก แล้วยังเสี่ยงที่ฝุ่นจากภายนอกเข้าไปอุดตันในตู้แอร์หรือในแผ่นกรองอากาศแอร์ทำให้ เสื่อมสภาพเร็ว
  7. ปรับระดับพัดลมกับความเย็นให้สัมพันธ์กัน เช่น ถ้าหากปรับระดับอุณหภูมิสูงมาก แต่เปิดความแรงลมเพียงเบอร์ 1 จะทำให้น้ำแข็งเกาะที่แผงคอยล์แอร์ ทำให้แอร์ไม่เย็น และควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพอากาศนอกรถด้วย
  8. ปิดแอร์ก่อนถึงปลายทางสัก 5–10 นาที ด้วยการปิดสวิตซ์ A/C และเปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุดแทน วิธีนี้จะช่วยลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น ซึ่งจะช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียภายในได้ดี แล้วจึงค่อยปิดพัดลมก่อนดับเครื่องยนต์ 
  9. ถ้าแอร์เริ่มไม่เย็น ให้รีบปิดสวิตช์ A/C ก่อน ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์หยุดทำงาน แต่ว่ายังสามารถเปิดพัดลมให้ทำงานได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหายไปก่อน จากนั้นจึงนำรถไปตรวจเช็กความผิดปกติทีหลัง
  10. อย่าลืมหมั่นถอดเอาแผ่นกรองอากาศแอร์ออกมาทำความสะอาด หากไม่เคยถอดออกมาเลยนั้นแผ่นกรองอาจจะมีอะไรอุดตันอยู่ทำให้แอร์ไม่ทำงาน หรือทำงานไม่เต็มที่ ลมแอร์เบา ไม่เย็น และแอร์ไม่บริสุทธิ์
  11. เปลี่ยนกรองแอร์และล้างแอร์ ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร  เพื่ออากาศที่สะอาดและยังช่วยถนอมแอร์อีกด้วย
  12. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยทำให้อากาศในรถสะอาด นอกจากนี้เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นก็ยังสามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายต่อคนได้ด้วย
  13. ทำความสะอาดภายในห้องโดยสารอยู่เสมอ เพื่ออากาศภายในรถที่สะอาดปราศฝุ่นและเชื้อโรค ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  14. ในสถานการณ์นี้เราทุกคนต้องร่วมกัน อยู่บ้านให้มากที่สุด และเดินทางออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น ดูแลตนเองและรถให้ปลอดภัย หากเราทุกคนร่วมกันดูแลตนเอง เราก็จะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอน 

ขอบคุณข้อมูลจาก สินมั่นคงประกันภัย

กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง


ตอบกระทู้ด่วน

กรุณาล็อคอินก่อนทำการตอบกระทู้นี้
สมัครสมาชิก หรือ ล็อคอิน