ผู้เขียน | ข้อความ | ||
---|---|---|---|
smanpruksa
เขียนกระทู้: 82
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0
(ขอบคุณ)
|
หลายคนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตอนเช้าในหลายพื้นที่ จากการสังเกตท้องฟ้ายามเช้าจะพบความหนาแน่นของฝุ่นละอองที่มองเห็นคล้ายหมอก ที่เกิดจากฝุ่นขนาดเล็กเกาะตัวร่วมกับกลุ่มหมอก กลายเป็นหมอกที่มีสีน้ำตาลจางๆ ซึ่งเกิดจากฝุ่นและหมอกรวมกัน จึงทำให้เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่เมื่อสายก็ยังไม่สลายไป ซึ่งเป็นกลุ่มฝุ่นควันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้หากสูดดมเข้าไปเกิดการสะสมต่อเนื่อง แล้วการขับรถซึ่งเราอยู่ในรถจะปลอดภัยจากฝุ่น "PM2.5 " ได้หรือไม่ มีความเสี่ยงแค่ไหน และ ควรทำอย่างไรบ้างกับรถยนต์ในช่วงภาวะมีมลพิษทางอากาศสูง มีคำแนะนำมาบอกกันดังนี้
อยู่ในรถปลอดภัยจากฝุ่นหรือไม่ ? รถยนต์ที่มีกรองอากาศที่ดีและสามารถกรองกลิ่นได้ ก็ไม่ปลอดภัยจากฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ทั้งหมด แต่ไม่เสี่ยงเท่ากับการเดินข้างถนน สามารถการขับรถตามปกติก็ไม่ได้เป็นอันตราย เว้นเสียแต่เปิดกระจกขณะขับรถ หรือหากรถของเรามีปัญหาเรื่องการกรองอากาศ หรืออากาศภายนอกเข้าสู่รถได้ เช่นได้กลิ่นเหม็นควันรถขณะรถติดไฟแดง ควรนำไปตรวจเช็ค หรือ เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ
อย่าลืมเปิดระบบแอร์หมุนวนภายในรถ ? ควรเปิดระบบอากาศหมุนวนภายในห้องโดยสาร เพื่อปิดช่องรับอากาศจากภายนอก แล้วใช้อากาศภายในห้องโดยสารหมุนเวียน ผ่านช่องที่อยู่บริเวณคอนโซลหน้ารถผ่านกรองแอร์แทน
ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศตอนไหน? แผ่นกรองอากาศแอร์ควรเปลี่ยนอย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุก ๆ 15,000 กิโลเมตร ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มีช่องสำหรับกรองแอร์ควรตรวจเช็คดู เพราะบางครั้งรถยนต์รุ่นนั้นมีที่ใส่กรอง แต่ไม่มีกรองอยู่ก็ได้ ตำแหน่งของกรองแอร์ส่วนใหญ่อยู่หลังลิ้นชักฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า หากรถยนต์ของไม่มีกรองแอร์ ก็สามารถเพิ่มกรองอากาศได้ ติดตั้งกรองแอร์บริเวณที่ดูดลมภายในห้องโดยสาร หรือซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถแทนได้
สำหรับข้อแนะนำข้างต้นเป็นทางรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่การแก้ปัญหาจากต้นเหตุ ซึ่งเราเองก็สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกทางหนึ่ง ก็คือการหมั่นดูแลรักษารถของเราให้ดีอยู่เสมอ หากรถของเรามีอายุการใช้งานมากก็ต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษต้องตรวจเช็คตามระยะเวลา ไม่ให้เกิดควันพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ที่เป็นอันตรายนั้นเอง การขับรถในเมืองจะพบกับปัญหามากมาย ทั้งฝุ่นควัน การจราจรที่คับคั่ง อุบัติเหตุ นอกจากการป้องกันมลพิษเเล้ว อย่าลืมป้องกันทุกอุบัติเหตุด้วย ประกันรถยนต์ ด้วย กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
|
||