ต้องทำอย่างไร เมื่อป้ายทะเบียนรถหล่นหาย

ต้องทำอย่างไร เมื่อป้ายทะเบียนรถหล่นหาย

ต้องทำอย่างไร เมื่อป้ายทะเบียนรถหล่นหาย ต้อนรับหน้าฝนกันด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย บางพื้นที่ที่มีฝนตกหนักจนน้ำท่วมสูง ทำให้เจ้าของรถต้องขับลุยน้ำเป็นเหตุให้แผ่นป้ายทะเบียนหล่นหาย รวมถึงจากสาเหตุอื่นๆ เช่น อุบัติเหตุทำให้ป้ายหลุด หรือตัวยึดป้ายนั้นเกิดสนิมและทำให้ตัวป้ายหลุดออกไปเอง แล้วเจ้าของรถอย่างเราต้องทำอย่างไรละ แจ้งความหรือเปล่าแล้วจะไปที่ไหน MR.OOHOO สรุปมาให้แล้วครับ

สำหรับเจ้าของรถที่แผ่นป้ายทะเบียนหาย ให้รีบดำเนินการติดต่อยื่นคำขอรับแผ่นป้ายทะเบียนรถทดแทนโดยไม่ต้องแจ้งความ โดยในกรุงเทพมหานครยื่นคำขอได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบ

สำหรับส่วนภูมิภาค ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือ สำนักงานขนส่งสาขาที่รถนั้นอยู่ในความรับผิดชอบ โดยต้องแนบเอกสาร ได้แก่

1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ หากไม่มาดำเนินการด้วยตัวเอง ต้องมีหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจมาแสดงด้วย

สำหรับกรณีรถติดไฟแนนซ์ สำหรับผู้เช่าซื้อ หรือ ผู้ครอบครองรถที่ต้องการดำเนินการด้วยตนเอง โดยต้องแนบเอกสาร ได้แก่

1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้เช่าซื้อ

3. หนังสือรับรองจากบริษัทไฟแนนซ์

4. หนังสือมอบอำนาจจากไฟแนนซ์พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

สำหรับกรณีเป็นนิติบุคคล โดยต้องแนบเอกสาร ได้แก่

1. สมุดคู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง

2. หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล

3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มีอำนาจลงนาม

4. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

MR.OOHOO ขอเตือนว่าอย่าทำป้ายทะเบียนปลอมเพื่อใช้งาน เพราะจะเข้าข่ายปลอมแปลงเอกสารราชการ มีความผิดทางอาญาปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท และจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ฉวยโอกาสนำแผ่นป้ายทะเบียนรถที่เก็บได้ไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งหมดทั้งมวลจะเสียค่าใช้จ่ายแผ่นป้ายละ 100 บาท ค่าคำขอ 5 บาท และจะได้รับแผ่นป้ายทะเบียนรถภายใน 15 วัน โดยระหว่างนี้ให้ใช้ใบเสร็จรับเงินแทนแผ่นป้ายชั่วคราวได้เลยครับ แต่ถ้าจะเลือกซื้อ ประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 อย่าลืมนึกถึง OOHOO ประกันออนไลน์  ที่ให้คุณได้เลือกซื้อได้ด้วยตัวเอง จบได้ในเว็บเดียว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก (อัปเดตข้อมูลวันที่ 4 พ.ค. 2561)