10 อันดับรถเร็วที่สุดใน Fast & Furious

10 อันดับรถเร็วที่สุดใน Fast & Furious

ปฎิเสธไม่ได้ว่า ภาพยนตร์ชุด Fast & Furious  นั้นที่ได้รับความนิยมมาตอลด 10 กว่าปี ก็เพราะคนอยากดู”ฉากขับรถซิ่งมันส์ๆ” เติมเต็มความฝันชายฉกรรจ์ที่อยากซิ่งรถ มีสาวสวยห้อมล้อม และใช้ชีวิตตื่นเต้นเสี่ยงตาย  

แถมรถแต่ละคันในหนัง Fast & Furious นั้น ก็ไม่ใช่รถแต่งกะโหลกกะลาแฮปปี้มีล ชุดแต่งคลองถมบ้านหม้อ หรือรวมพลชาวไรซ์ใส่ท่อเบิ้ลติด LED เจ็ดสีแต่อย่างใด แต่มันเป็นรถซิ่งราคาแพงระยับ และส่วนมากมักจะเป็นตัวโหดของยี่ห้อนั้นๆด้วย

และนี่คือบทความที่จะแนะนำ 10 อันดับรถเร็วที่สุดใน Fast & Furious ก็เอาไว้อ่านกันขำๆต้อนรับ Fast 8 ที่กำลังจะเข้าไทยในช่วงสงกรานต์ 2017 !

10. 2013 LUCRA LC470 SC (FAST & FURIOUS 6)

จัดเป็นรถประเภท Hand-built หรือประกอบด้วยมือตามใบสั่ง มีขายที่ California โดบบริษัท  Lucra Cars ซึ่งเจ้า LC470 SC เปรียบเสมือน Shelby Cobra แห่งยุคสมัยใหม่ (ที่เชฟโรเลตต์เคยอยากจะโค่นเมื่อยุค 60) ด้วยตัวเครื่อง และปริมาตรที่เล็ก + ตัวรถทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ชิ้นเดียวทั้งคัน  แถมมีความเป็น Roadster สูง ด้วยเครื่อง  7.0L V-8 520แรงม้า และมีอัตราเร่ง 0-100 ใน 2.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุดที่ 289.6819 กิโลเมตร / ชม.

9. Aston Martin DB9 (FAST & FURIOUS 7)

รถซิ่งระดับวายร้ายของ  เดคาร์ด ชอว์ (เจสัน สเตแธม) และยังไปโผล่ในฉากศึกตัดสินช่วงท้ายเรื่องสุดมันส์ด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าจะว่าไป ระยะหลังๆ ภาพของแอสตัน มาร์ติน จะไปในทางรถของสายลับ 007 มากกว่า

โดย Aston Martin DB9  ใช้เรื่องเบนซิน V12 ขนาด 6ลิตร  กำลังสูงสุด 517 แรงม้า เครื่องวางหน้าแต่ขับเคลื่อนล้อหลัง เกียร์ออโต้6 สปีด อัตราเร่ง 0-100 ใน 4.6 วินาที มีความเร็วสูงสุด 295  กิโลเมตรต่อชั่วโมง

8. 2012 NISSAN GT-R (FAST &FURIOUS 7)

ขึ้นชื่อว่า  NissanGT-R นี่ก็ถือว่าเป็นรถในฝันของเหล่าผุ้นิยมรถซิ่งจากแดนอาทิตย์อุทัยเลยก็ว่าได้  (อีกคัน ก็ RX-7 จากฝั่งมาสด้า)  ด้วยอัตราเร่งชนิด “กระทืบเบาๆก็พุ่ง” ทำให้ถูกใจแฟนๆชาวไทยไม่น้อย บวกกับกระแสหนัง Fast ซีรี่ส์ ที่มักจะให้ โอ คอนเนอร์ “นิยมรถญี่ปุ่น” จนแทบจะเป็นภาพจำของตัวละครดังกล่าวไปเลย และในภาคสั่งลาอย่าง Fast 7 ที่โอคอนเนอร์ต้องเตรียมตัวรับมือกับชอว์ ก็ใช้ GT-R 2012 วาดลวดลายซิ่งสุดเท่อีกด้วย

ตัวเครื่องใช้เครื่อง Twin-Turbocharged V-6 มีอัตราเร่ง 0-100 ที่ 3.2 วินาที ถึงอัตราเร่งจะน้อยกว่าอันดับก่อนหน้า แต่ท๊อปสปีด ก็ซัดไปที่ 313.82  กิโลเมตรต่อชั่วโมง

7. 2011 LEXUS LFA  (FAST &FURIOUS 5)

เมื่อเรานึกถึง “เล็กสัส” เอ้ย “Lexus” เราจะนึกถึงความบาง และความนิ่งเงียบของเครื่อง และมีความเป็น Luxury car ที่มีอัตราเร่ง 0-100ในระยะเวลา 3.8 วิน เหยียบทีพุ่งหลาวไปหน้าปากซอยกันเลย และซัดความเร็วสูงสุดที่ 325.09 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ซึ่งก็ต้องยกเครดิตความแรงทะลุโลกด้วยเครื่องยนต์ 552 แรงม้า  4.8 ลิตร  V-10 และตัวงานก็ยังเป็นงานระดับแฮนเมด ทำมือตามใบสั่ง ไม่สั่งไม่ทำ

แถมมีเพียง 500 คันเท่านั้นในโลกนี้ ถ้ามีคันที่ 501 ออกมาแปลว่าเป็นรถจากโลกหน้า หรือไม่ก็ผลิตจากดาวอังคารแน่นอน!

6. 1966 FORD GT40 (FAST &FURIOUS 5)

รถอเมริกัน โดยอเมริกัน รถคันนี้ถูกสร้างเอามาเพื่อท้าชนกับเฟอร์รารี่ในการวิ่งระยะทางไกลช่วงปี 60 และฟอร์ด ก็ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่างที่มีในการทำรถคันนี้ออกมา และสามารถทำได้สำเร็จอย่างงดงามในสมัยนั้น ด้วยการคว้าแชมป์การแข่ง Le Mans (เลอมังส์) 4 สนามรวด! 

GT40 คันนี้ มีเครื่อง 7.0ลิตร  V-8. ตัวเครื่องไม่ได้มีอัตราเร่งที่ดีนัก เพราะสามารถทำได้ 160.93 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8 วินาที  แต่มีความเร็วสูงสุดถึง 337.96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.

5. 2015 LYKAN HYPERSPORT (FAST &FURIOUS 7)

นี่คือรถที่เป้น “ซีนขาย” ของ Fast 7 ที่สองหนุ่มพระเอกของเรื่องควบรถซิ่งทะลุตึกอย่างบ้าคลั่ง โดยรถคันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนองนี้ดของเศรษฐีเงินเหลือใช้ในประเทศดูไบ ในนาม บ. W Motor ที่มีฐานการผลิตใน UAE และมีราคาค่าตัวสูงถึง 103 ล้านบาทเศษๆ (ไม่รวมภาษี 400% ในบ้านเรานะ)

โดยรถอสูรกาย (ที่ดอมเคยว่าไว้) ได้วางเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.7 ลิตร เทอร์โบคู่  770 แรงม้าอัตราเร่งจาก 0-100 ได้ 2.8 วินาที  และ มีความเร็วสูงสุดถึง 385 กิโลเมตรต่อชั่วโมง.

4. 2005 FERRARI FXX (FAST & FURIOUS 6)

เจ้า FXX คันนี้ ถึงจะออกมาในช่วงสั้นๆในหนัง แต่ทำเอาคนรักรถซี้ดปากได้ เพราะมีเพียง 30คันในโลกเท่านั้น! เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูงชนิดรถต้นแบบ ที่รวมเอาสรรพเทคโนโลยีเท่าที่เฟอร์รารี่จะกลั่นออกมาได้ และเป็นรุ่นที่พัฒนามาพร้อมกันกับ มาร์เซราติ MC 12 ที่ใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ V12 ร่วมกัน

ด้วยความแรงที่มาจากเครื่อง 6.3 ลิตร V12  660 แรงม้า  มีอัตราเร่ง 0-100 ใน 2.9 วินาที และกดความเร็วสูงสุด ที่ 391.07 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สนนราคาเบาๆที่ 72 ล้าน 8 แสนบาทไทย ไม่รวมภาษี 400%

3. 2010 KOENIGSEGG CCXR EDITION (FAST &FURIOUS 5)

“โคนิกเซ็กก์” รถไฮเปอร์คาร์สัญชาติสวีเดน ที่ “โรมัน” เอาเงินที่ปล้นมาได้ ไปซื้อมาขับเล่นแล้วมาอวด “เทจ” ในช่วงจบภาค 5 โดยโรมันโม้ว่า ในซีกโลกตะวันตก มีรถคันนี้เพียงคันเดียว แต่สุดท้าย เทจเองก็เจียดเงินที่ปล้นมาได้ ซื้อรถคันเดียวกับโรมันนั่นเอง..

ซึ่งที่โรมันโม้ไว้ก็ไม่หนีจากความเป้นจริงเท่าไหร่นัก เพราะรถคันนี้ มีเพียง30คันในโลก ประกอบด้วยมือทุกคัน ด้วยความโหดของเครื่องขนาด 4.8 V-8 ทำอัตราเร่ง 0-100 ใน 2.8 วินาที และซัดความเร็วสูงสุดที่ 402.34 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

2. 2011 BUGATTI VEYRON (FAST &FURIOUS 7)

โผล่มาในหนังแบบโก้ๆ ไมีมีอะไรมาก ซึ่งเป็นซีนที่พรรคพวกของดอมออกตามหาโปรแกรม “ตาเทพ” ที่ดูไบ ร่วมกับแรมซีย์ แฮกเกอร์สาวที่พวกเขาเพิ่งช่วยมาได้ ราคาเบาๆเพียง ประมาณ 50 ล้านบาท ไม่รวมภาษีบ้านเรานะเออ! 

โดย Bugatti Veyron เป็นไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นในปี 2005  ใช้เครื่องยนต์ 16 สูบแบบ W16 เทอร์โบชาร์จ 4 ตัว+อินเตอร์คูลเลอร์ 1,000 แรงม้า รถคันนี้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียงแค่ 2.5 วินาที  และ ทำความเร็วสูงสุดที่ 420 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

1. 1968 NELSON RACING ENGINES DODGE CHARGER  (FAST &FURIOUS 7)

บูกัตตี้ ไม่ใช่คำตอบของความแรง ในจักรวาล Fast & Furious ครับ เพราะแอดมินมี สุดยอดปีศาจสีเงิน “68 Dodge Charger” ของโดมินิค ทอร์เรตโต้ ที่ถูกใช้ในฉากอำลา “ไบรอัน โอ คอร์เนอร์”  ที่พี่วินกล่าวว่า มันเหมือนเป้นซีนที่ทำมาเพื่อคารวะ “พอล วอล์คเกอร์” เพื่อนรักตลอดกาล และเป็นซีนดึงอารมณ์คนดูในโรงถึงขั้นร้องไห้น้ำตาแตกมาแล้ว

ความโหดระดับ เร็ว แรง ทะลุนรกคันนี้ สามารถอธิบายผ่านสเปคได้ครับ ด้วยเครื่องยนต์  9.4 ลิตร แบบ Twin-Turbo 2000 แรงม้า  มีอัตราเร่ง จาก 0-100 ใน 2 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 418.43 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Tom Nelson ผู้ออกแบบรถรุ่นนี้ ได้กล่าวถึงขั้นตอนการทำงานที่กินเวลาไปถึง 4,000 ชม. ในการออกแบบ และผลิต เพราะเขาต้องสรรหาอะไหล่ที่ดีที่สุดมาประกอบเข้ากับรถทรงอเมริกัน เช่นระบบช่วงล่างที่ใช้ของรถ Corvette C6 /ล้อแม็กซ์ 18′ และบอดี้ทีjลงสีแบบอลูมิเนียมที่ดูดิบ และเรียบง่าย แต่แฝงความแวววาวแบบต้องตาได้เมื่อพบเห็น 

ซึ่งทั้งหมดนี้ ผู้สร้างรถ และทีมงานกองถ่ายทุกคน ก็ต้องการที่จะทำรถคันนี้เพื่อส่ง พอล วอล์คเกอร์ ไปสู่สวรรค์ เป็นเหมือนคำขอบคุณที่ช่วยกันปั้น Fast & Furious จนโด่งดัง และอำลาเพื่อนรักที่ดีที่สุดของพวกเขา ผ่านซีนจบดังกล่าวด้วย…