ผู้เขียน | ข้อความ | ||
---|---|---|---|
smanpruksa
เขียนกระทู้: 82
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0
(ขอบคุณ)
|
เริ่มเข้าสู่ช่วงอากาศเย็นกันแล้ว และเมื่อถึงฤดูหนาวเมื่อไรอุณหภูมิจะค่อยลดลงอีก ทำให้หลายท่านอาจมีปัญหาเวลาสตาร์ทรถในช่วงเช้า จะสตาร์ทรถติดยากกว่าปกติ จะมีสาเหตุมาจากอะไร วันนี้มีคำตอบของอาการสตาร์ทรถไม่ติดมาบอกกัน โดยทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคการตรวจสอบอาการรถสตาร์ทไม่ติดที่อาจเกิดขึ้นได้ แบบง่าย ๆ ที่นำมาฝากกัน จะได้ตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นและทำการแก้ไขได้ก่อนหากเป็นปัญหาเล็กน้อยจะได้ไม่เสียเวลาเรียกช่างมาตรวจสอบ และในการขับขี่ทุกครั้ง ควรเตรียมพร้อมเสมอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ด้วยประกันรถยนต์ที่วางใจ ที่จะคุ้มครองทั้งรถและคุณ
สาเหตุส่วนใหญ่ของสตาร์ทติดยากในช่วงอากาศเย็นจะเกิดขึ้นจาก
1. แบตเตอรี่ ในอุณหภูมิปกติ แบตเตอรี่รถยนต์จะมีการคายประจุออกไปอย่างช้า ๆ เนื่องมาจากการรั่วไหลระหว่างขั้วต่อ ปฏิกิริยาเคมีในที่อากาศเย็นจะคายประจุได้เร็วกว่า ทำให้ความจุของแบตเตอรี่ลดน้อยลง จึงทำให้รถของเราสตาร์ทติดยากขึ้น หรือ อาจจะสตาร์ทไม่ติดเลย วิธีตรวจสอบให้ลองบีบแตรรถไปด้วย ถ้าเสียงแตรไม่ดัง แสดงว่าเป็นปัญหาที่แบตเตอรี่ แต่ถ้าแตรยังดังอยู่ อาจจะเป็นจากสาเหตุอื่น เช่น ไดสตาร์ท เป็นต้น การแก้ไข ลองตรวจดูความสะอาดที่ขั้วแบตเตอรี่ก่อน ถ้ายังไม่ติดแสดงว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้ว ต้องต่อพวงแบตเตอรี่กับรถคันอื่นไปก่อน หรือนำแบตเตอรี่ลูกใหม่มาเปลี่ยนแทน
2. น้ำมันเครื่อง ในอากาศหนาวเย็นนั้น จะส่งผลทำให้น้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์เหนียวขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ใช้แรงในการหมุนมากขึ้นกว่าปกติ การแก้ไข ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีค่าความหนืดที่สามารถรองรับสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาวเย็นได้ดี เพื่อการทำงานของเครื่องยนต์ที่ดีขึ้น
สำหรับอาการรถสตาร์ทไม่ติดอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับอากาศเย็น
เมื่อบิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนดีแต่สตาร์ทไม่ติด เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหมุนกุญแจ แล้วเครื่องยนต์ก็เหมือนจะหมุนได้ดี แต่หมุนนานเท่าไรก็ไม่ติด อาการนี้ส่วนใหญ่แล้วมาจากไม่มีน้ำมันจ่ายไปที่ห้องจุดระเบิด วิธีตรวจสอบสาเหตุ - น้ำมันในถังหมด ให้เช็กดูน้ำมันคงเหลือในถัง ถ้ามีไฟเตือนรูปเติมน้ำมัน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า น้ำมันในถังหมดแล้ว ทำให้สตาร์ทอย่างไรก็ไม่ติด หรืออาจเจออาการลูกลอยค้าง ทำให้เห็นว่ายังมีน้ำมันอยู่ แต่ความจริงน้ำมันมันหมดไปแล้ว ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ - ปั๊มติ๊กอาจเสีย เนื่องจากปั๊มติ๊กจะทำหน้าที่ในการส่งน้ำมันจากถังไปทีหัวฉีด ถ้าปั๊มติ๊กไม่ทำงาน ก็จะไม่มีน้ำมันเข้าไปจุดระเบิด สตาร์ทอย่างไรก็ไม่ติด - เกิดจากหัวเทียนบอด ทำให้ไฟไม่จ่ายไปที่ห้องจุดระเบิด หรือเกิดจากสายไฟหัวเทียนมีปัญหา ก็ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้
บิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนช้าเบากว่าปกติ ถ้าเราบิดกุญแจแล้วเครื่องหมุนเบากว่าปกติ วิธีตรวจสอบสาเหตุ - แบตเตอรี่มีไฟเหลือน้อย อาจจะมาจากการเปิดไฟทิ้งไว้ หรือ ไฟรั่ว หรือแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ให้ลองพ่วงแบตเตอรี่กับรถคันอื่นดู ถ้าพ่วงแล้วเครื่องหมุนดี สตาร์ทติดได้ตามปกติ แสดงว่ามาจากแบตเตอรี่แน่นอน - มีไฟรั่วในรถ ตรวจสอบได้ด้วยการนำรถเข้าไปตรวจสอบที่อู่หรือศูนย์บริการ ถ้ามีไฟรั่ว ต้องหาจุดที่รั่วให้เจอแล้วทำการแก้ไข - ไดร์สตาร์ทเริ่มเสื่อมสภาพ ในกรณีที่พ่วงแบตเตอรี่แล้วเครื่องยังหมุนช้า
บิดกุญแจแล้วเครื่องไม่หมุนเลย ถ้าเราหมุนกุญแจแล้วเครื่องไม่หมุนเลย วิธีตรวจสอบสาเหตุ - ขั้วแบตเตอรี่อาจจะมีการหลุดหรือหลวม หน้าปัดมีไฟแสดงปกติไหม ถ้าไม่มีไฟอะไรแสดงเลย ให้ตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ที่หน้ากระโปรงดูก่อน เพราะเป็นไปได้ว่าขั้วแบตเตอรี่อาจจะมีการหลุดหรือหลวมได้ แต่ถ้ามีไฟอยู่ ให้ดูที่เกียร์ก่อนว่าอยู่ในตำแหน่ง P หรือ N อยู่หรือเปล่า เพราะรถรุ่นใหม่บางรุ่นจะต้องเหยียบเบรกก่อน ถึงจะทำการสตาร์ทรถได้ ถ้าไม่เหยียบรถก็ไม่สตาร์ท - ไดสตาร์ท แต่ถ้าเครื่องยังไม่หมุนอีก อาจเกิดจากไดสตาร์ทควรเข้าอู่เพื่อตรวจดูไดสตาร์ท กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
|
||