ผู้เขียน | ข้อความ | ||
---|---|---|---|
smanpruksa
เขียนกระทู้: 82
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0
(ขอบคุณ)
|
รู้ไว้ก่อนขับรถลุยน้ำท่วมสูง หรือน้ำป่าหลาก ช่วงปลายฤดูฝนแบบนี้ อาจมีเพื่อนๆ จำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วมหรือบริเวณที่มีน้ำป่าไหลหลากโดยไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ.1669 ได้แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องเจอกับ น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ไว้ดังนี้ 1. กรณีที่เกิดพายุ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจะต้องฟังประกาศเตือนภัย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2. เตรียมการในเบื้องต้นเพื่อระวังภัยโดยการตรึงประตู หน้าต่าง ให้มั่นคง 3. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรขณะฝนตกฟ้าคะนอง 4. เตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น เทียนไข ไฟฉาย ยาประจำตัวติดตัวตลอด ขณะฝนตกฟ้าคะนอง ห้าม อยู่ใต้ต้นไม้ เสาไฟ และห้ามโทรศัพท์ เด็ดขาด 5. หากเกิดดินโคลนถล่มเพราะฝนตกหนักให้สังเกตสัญญาณเตือนภัยของเหตุดินโคลนถล่ม เช่น เสียงต้นไม้หัก หินก้อนใหญ่ตกลงมา โดยต้องสังเกตสีและลักษณะของน้ำ ดังนี้ น้ำมีสีขุ่น ให้อพยพไปในพื้นที่สูงและมั่นคง หากพลัดตกน้ำ หาต้นไม้ใหญ่เกาะ รีบขึ้นจากน้ำให้ได้ หากหนีไม่ทัน ให้ม้วนตัวเป็นทรงกลม ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันศีรษะกระแทก 6. ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องรีบอพยพขึ้นที่สูง โดยหลีกเลี่ยงแนวธารน้ำ ช่องระบายน้ำ สวมเสื้อชูชีพ ห้ามเดินฝ่ากระแสน้ำ และใช้ไม้ปักดินคลำทาง เพื่อสังเกตว่าดินตื้นลึกแค่ไหน
หากผู้ขับขี่ต้องขับรถเข้าไปในเส้นทางที่มีฝนตกหนัก ควรที่จะขับรถอย่างระมัดระวังเพราะนอกจากจะพบเจอเข้ากับเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมเส้นทางแล้วอาจจะพบเจอเข้ากับปัญหาดินถล่มสไลด์ตัวปิดถนนได้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถที่จะเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้ก็สามารถที่จะขับฝ่าน้ำเข้าไปได้เช่นกัน ดังนี้ • ขับขี่อย่างระมัดระวัง เนื่องจากรถยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถขับลุยน้ำได้ยกเว้นรถออฟโรดซึ่งมีการยกระดับตัวถังให้สูงจากพื้นส่งผลให้สามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้โดยง่าย • ปิดระบบปรับอากาศภายในรถเพื่อไม่ให้ระบบปรับอากาศทำการดูดอากาศเข้ามาในระบบซึ่งจะรวมไปถึงน้ำเข้ามาด้วย • ลดกระจกลงเนื่องจากปัจจุบันกระจกรถส่วนใหญ่มีการติดตั้งระบบปรับขึ้น-ลงได้ด้วยไฟฟ้าหากรถเกิดดับในขณะลุยน้ำอยู่จะไม่สามารถเปิดกระจกได้ • ผู้ขับขี่ที่ต้องขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมควรใช้เกียร์ต่ำ ก่อนจะใช้วิธีการเหยียบคันเร่งเบา ๆ ในระยะความเร็วที่ไม่สูงมากนัก • ไม่ควรผ่อนคันเร่งเพื่อป้องกันเครื่องยนต์ดับ ถ้าหากเครื่องยนต์ดับผู้ขับขี่ก็ไม่ควรฝืนสตาร์ทเครื่องยนต์อีกเพราะยิ่งจะทำให้น้ำเข้าไปภายในระบบเครื่องยนต์มากยิ่งขึ้น • หมั่นสังเกตว่ามีเสียงน้ำเข้าไปภายในท่อไอเสียหรือไม่ เนื่องจากหากมีน้ำเข้าไปภายในท่อไอเสียจะทำให้รถเร่งไม่ขึ้นแรงตกและน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับไปได้ด้วยเช่นกัน • ห้ามขับรถฝ่ากระแสน้ำท่วม • หากถ้าน้ำขึ้นสูงรอบ ๆ รถ ให้รีบออกจากรถให้เร็วที่สุด • อย่าเสี่ยงช่วยผู้อื่นหากอุปกรณ์ไม่พร้อม เพราะอาจไม่รอดทั้งคู่ • หลังจากถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ควรล้างทำความสะอาดรถโดยเร็วเนื่องจากหากมีน้ำเกาะอยู่กับรถจะส่งผลให้มีสนิมเกาะกินได้ง่ายและทำให้ระบบห้ามล้อมีการทำงานที่ผิดปกติไปด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก สินมั่นคงประกันภัย ประกันรถยนต์ กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
|
||