ผู้เขียน | ข้อความ | ||
---|---|---|---|
smanpruksa
เขียนกระทู้: 82
ตอบกระทู้: 0
พลังน้ำใจ: 0
(ขอบคุณ)
|
ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่มีการออกแบบไฟหน้าที่หลากหลาย และมีการเลือกใช้หลอดไฟที่มีความสว่างและประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยทำให้ไฟหน้านอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยขณะขับขี่แล้ว ไฟหน้ายังช่วยทำให้รถยนต์ดูทันสมัยมากขึ้นอีกด้วย ไฟหน้ารถยนต์ในปัจจุบันจะมีอะไรบ้าง วันนี้รวบรวมเรื่องควรรู้เกี่ยวไฟหน้ารถยนต์ปัจจุบันมาแนะนำกันดังนี้ โคมไฟหน้ารถยนต์ปัจจุบัน มี 2 แบบ 1. ชุดโคมแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ใช้ในรถยนต์ทั่วไป มีจานฉายซึ่งสามารถหักเหแสงสะท้อนไปมา เพื่อสร้างความสว่างสูงสุดลงบนพื้นถนน โคมนี้มักใช้กับหลอดไฟแบบฮาโลเจนที่ให้แสงสีนวล แต่มีรถบางรุ่นที่ใช้คู่กับหลอดซีนอนหรือแอลอีดี ซึ่งมีการออกแบบการหักเหของแสงมาโดยเฉพาะ เราไม่ควรนำโคมไฟแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ที่มาคู่กับหลอดฮาโลเจนจากโรงงาน มาเปลี่ยนเป็นหลอดแบบซีนอน เพราะจะทำให้แสงที่ได้ฟุ้งกระจาย รบกวนสายตาผู้ร่วมทางจนอาจเกิดอันตรายได้ 2. ชุดโคมแบบโปรเจคเตอร์ มักใช้ในรถที่มีราคาสูง มาพร้อมหลอดไฟแบบฮาโลเจน ซีนอน หรือ LED ข้อดีของโคมโปรเจคเตอร์ คือ การกระจายแสงที่เป็นระเบียบกว่าโคมมัลติรีเฟล็กเตอร์ ช่วยลดการฟุ้งกระจายของแสงได้ อีกทั้งยังช่วยให้รถดูสวยงามขึ้นอีกด้วย รถยนต์ราคาสูงมักมีโคมโปรเจคเตอร์ ไฟต่ำ-ไฟสูงในชุดเดียวกัน ที่เรียกว่า Bi-Xenon, Bi-LED หรือ Bi-Halogen แล้วแต่ชนิดของหลอดไฟ ซึ่งมีข้อดีอยู่ที่การสลับไปมาระหว่างไฟต่ำ-ไฟสูง ทำได้อย่างรวดเร็ว และมีการกระจายไฟสูงที่ดีกว่า หลอดไฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบันแบ่งเป็น 1. หลอดฮาโลเจน (Halogen Bulb) เป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ หาเปลี่ยนได้ง่าย อะไหล่ไม่แพง แต่หลอดไฟเหล่านี้ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะพลังงานมีการสูญเสียไปกับการผลิตความร้อน สีของหลอดไฟฮาโลเจนที่ใช้กับรถยนต์นั้น ให้แสงที่ออกสีเหลือง หลอดไฟฮาโลเจนส่องได้ไกลประมาณ 100 เมตร แสงสีเหลืองของหลอดฮาโลเจนยังสามารถส่องพื้นถนนยามฝนตกได้ดีกว่าไฟสีขาวหรือสีอมฟ้า หลอดฮาโลเจนในปัจจุบันก็มีด้วยกันหลายเกรด ตั้งแต่เกรดมาตรฐานจากโรงงาน ไปจนถึงเกรดสูงๆ ที่ให้แสงสีขาวกว่า และมีความสว่างมากกว่า ข้อดี : ราคาถูก มีความทนทาน ใช้งานได้นาน ข้อเสีย : มีความสิ้นเปลือง เนื่องจากมีการสร้างความร้อนมากเกิน
2. หลอดซีนอน (Xenon) หรือ High Intensity Discharge (HID) ภายในบรรจุก๊าซนีออน หลอด HIDจะให้ความสว่างมากกว่าหลอดฮาโลเจน 2-3 เท่า แต่หลอดไฟนี้ได้รับความนิยมเป็นช่วงเวลาไม่นานนัก ก่อนที่รถยนต์หลายค่ายจะเปลี่ยนมาใช้หลอดแบบ LED แทน ข้อดี : ให้ความประหยัด เพราะใช้พลังน้อย แต่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ให้แสงสว่างกว่าหลอดไฟฮาโลเจน และรัศมีแสงให้วงที่กว้างกว่า ข้อเสีย : มีราคาแพง ตัวหลอดต้องป้อนกระแสไฟแรงสูงที่มากถึง 20,000 โวลต์เข้าไป ทำให้อาจเกิดอันตรายขึ้นได้จากการติดตั้ง หรือการใช้งานที่ผิดพลาด
3. หลอดไฟ LED (light emitting diode) หลอดไฟที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความสว่างสูง ความร้อนต่ำ และกินไฟน้อย ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ผลิตแสงสว่างจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอน จึงเป็นระบบที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งหลอดแบบ LED สามารถใช้ได้กับโคมไฟทั้งแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ หรือโคมโปรเจคเตอร์ก็ได้ ซึ่งผู้ผลิตสามารถออกแบบชิ้นเลนส์โปรเจคเตอร์ให้มีรูปลักษณ์เข้ากับดีไซน์โดยรวมของชุดไฟหน้าได้อีกด้วย การทำงานของหลอดไฟ LED ก็คือ ภายในหลอดไฟจะมีชิปที่ทำให้เกิดแสง และควบคุมความสว่างด้วยกล่อง driver แสงที่ให้ออกมาจะมีลักษณะขาวสว่าง ข้อดี : ไฟสว่างทันทีที่เปิด ประสิทธิภาพเยี่ยม และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า มักถูกใช้เป็นไฟท้ายหรือไฟวิ่งเวลากลางวัน ด้วยแสงที่มีสีที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ไฟเหล่านี้ใช้พลังงานน้อยมาก ให้ความประหยัด เพราะใช้พลังน้อย แต่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ให้แสงสว่างจ้ากว่าหลอดไฟ Halogen และรัศมีแสงที่ยิงออกไป ให้วงที่กว้างกว่า ข้อเสีย : มีราคาสูง
4. หลอดเลเซอร์ ไฟหน้าแบบเลเซอร์ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำที่สุดปัจจุบัน แต่ยังคงมีใช้อย่างจำกัดเฉพาะรถหรูบางรุ่น ยังใช้สำหรับไฟสูงเท่านั้น เนื่องจากมีความสว่างสูงมากเกินกว่าจะใช้งานปกติได้ โดยใช้ลำแสงเลเซอร์กระตุ้นก๊าซที่อยู่ภายในทำให้เกิดแสงที่สว่างมากและมีพลังสูง ข้อดี : มีขนาดเล็กกว่ามากและสามารถส่องถนนได้ในระยะไกล เลเซอร์ใช้พลังงานในการผลิตแสงต่ำ ในการผลิตแสงไฟหน้ารถที่ได้ความเข้มเทียบเท่าหลอดไฟชนิดอื่น แต่ในขณะเดียวกันแถบไม่ได้ดึงพลังงานของรถยนต์มาใช้เลย ข้อเสีย : ไฟหน้าแบบเลเซอร์มีความเข้มแสงมากอาจรบกวนทัศนวิสัยรถที่สวนมา ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และมีราคาสูงมาก
ทั้งนี้ การจะเปลี่ยนหลอดไฟหน้าใหม่ ควรเลือกหลอดไฟตามคู่มือรถระบุจะดีที่สุด เนื่องจากชุดโคมถูกออกแบบมาสำหรับหลอดแต่ละประเภทโดยเฉพาะเท่านั้น
ไฟหน้ารถควรตรวจสอบอยู่เสมอ หากพบว่า หลอดไฟไม่สว่าง เสื่อมคุณภาพควรรีบเปลี่ยนทันที และอย่าลืมตรวจสอบประกันรถยนต์ให้แน่ใจ ในทุกการเดินทาง ที่จะช่วยคุ้มครองรถและคุณจากทุกเหตุการณ์บนท้องถนน คลิก https://www.smk.co.th/premotor.aspx กระทู้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
|
||