มีรถยนต์เป็นของตัวเอง แล้วจะเริ่มต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้เมื่อไหร่

          ผู้ที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ประเภทใดก็ตาม ล้วนมีภาระหน้าที่เหมือนกันทั้งสิ้น นั่นก็คือการชำระค่าภาษีของรถยนต์ให้กับกรมการขนส่งในอัตราที่หน่วยงานภาครัฐกำหนด แต่การเดินทางไปเสียภาษีที่กรมขนส่งโดยตรงนั้นค่อนข้างลำบากและทำให้เจ้าของรถเสียเวลาได้ ส่งผลให้เจ้าของรถหลายคนไม่สามารถชำระภาษีได้ทันเวลาที่กำหนด จนกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียค่าปรับได้ ดังนั้นการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์จึงเป็นวิธีดำเนินการเสียภาษีในรูปแบบใหม่ที่หน่วยงานภาครัฐกำหนดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเจ้าของรถยนต์ได้มีความสะดวกในการดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ได้ตลอดเวลา โดยเจ้าของรถสามารถตรวจสอบความถูกต้องของ ค่าภาษีรถยนต์ก่อนดำเนินการ และติดตามสถานะของการดำเนินเอกสารได้ตลอดเวลา ช่วยให้เจ้าของรถมั่นใจได้เลยว่าเอกสารจะมีความถูกต้อง และการติดตามผลการดำเนินการตลอดจนกว่าจะได้เอกสารภาษีกลับคืนมาเก็บเป็นหลักฐาน ซึ่งการชำระภาษีระบบออนไลน์นั้นมีรายละเอียดที่เจ้าของรถควรให้ความสำคัญ ดังต่อไปนี้

          1. เอกสารที่จะต้องเตรียมก่อนยื่นเรื่องภาษี ก่อนอื่นเจ้าของรถยนต์จะต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร พรบ. เลขทะเบียนรถยนต์ และเอกสารการตรวจสอบสภาพรถยนต์ในกรณีที่รถยนต์มีอายุการใช้งานมามากกว่า7 ปี การเตรียมเอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ให้พร้อมก่อนดำเนินการจะช่วยให้การต่อภาษีมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

          2. ประเภทของรถยนต์ที่ให้บริการ ปัจจุบันการต่อภาษีรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ ยังไม่สามารถรองรับการดำเนินการชำระค่าภาษีสำหรับรถบรรทุกได้ และสามารถรอรับให้บริการรถยนต์อยู่ 3 ประเภทเท่านั้น ได้แก่ ภาษีรถเก๋งภาษีรถกระบะและภาษีรถตู้ ซึ่งรถแต่ละประเภทจะมีอัตราการคำนวณภาษีที่แตกต่างกันระหว่างน้ำหนักของตัวรถและกำลังของเครื่องยนต์ และรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมามากกว่า 6 ปีขึ้นไปจะมีอัตราส่วนลดมาคิดคำนวณด้วย เลขทะเบียนรถยนต์ การระบุประเภทของรถยนต์ และอายุการใช้งาน จึงจำเป็นและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

          3. วันที่เริ่มต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ กรมขนส่งได้เริ่มให้บริการต่อภาษีผ่านระบบออนไลน์มานานแล้ว แต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงระบบให้เกิดความชัดเจนมาก สำหรับเจ้าของรถที่มีความประสงค์จะดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์นั้น สามารถเข้าไปลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของกรมขนส่งได้ตลอดเวลาที่สะดวก โดยเจ้าของรถจะต้องยืนยันตัวตนของผู้ลงทะเบียนเองด้วยการกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในการลงทะเบียนให้ครบถ้วน ทั้งเลขประจำตัวบัตรประชน เลขทะเบียนของรถยนต์ขั้นที่ต้องการดำเนินการทางภาษี ประเภท ภาษีรถยนต์ 4 ประตูระหว่างรถตู้ รถยนต์ และรถกระบะ และต้องไม่ลืมที่จะตั้งรหัสผ่านที่จดจำได้ยากหรือเป็นความลับที่รู้เฉพาะตัวเจ้าของรถเอง เพื่อความปลอดภัยทางข้อมูลในระบบออนไลน์นั่นเอง

           4. การติดตามผลการดำเนินการหลังจากดำเนินการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์แล้วเจ้าของรถยนต์สามารถติดตามผลการดำเนินการได้ตลอดเวลาว่าเอกสารกำลังดำเนินอยู่ในขั้นตอนใด ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการรอให้ชำระเงิน ซึ่งจะต้องไม่เกินกับระยะเวลาที่ทางกรมขนส่งแจ้งเตือน ขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร หรือขั้นตอนการจัดส่งเอกสารหลักฐานมาให้กับเจ้าของรถตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในเว็ปไซต์นั่นเอง

           5. อัตราค่าใช้จ่ายอื่น ๆในการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์นั้น นอกจากจะมี ค่าภาษีรถยนต์ที่เจ้าของรถยนต์ทุกๆ คนจะต้องรับผิดชอบแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการดำเนินงานอีก ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมจากการใช้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินต่าง ๆ หรือค่าธรรมเนียมในการดำเนินธุรกรรมกับทางธนาคาร และค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสาร40 บาท ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ระบบจะมีการแสดงข้อมูลเหล่านี้ให้เจ้าของรถเห็นก่อนที่จะคำนวณการยืนยันก่อนจบขั้นตอนการยื่นภาษีผ่านระบบออนไลน์

            การเป็นเจ้าของรถสักคันคงเป็นเป้าหมายในชีวิตของใครหลายๆคน เพราะรถยนต์ที่ดีนั้นจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของรถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทำงาน ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หรือใช้เพื่อการสร้างรายได้ แต่ไม่ว่ารถยนต์ของคุณจะมีเพื่อประโยชน์ในเรื่องใดก็ตาม หน้าที่ของเจ้าของรถยนต์ทุกคนคือต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐบาล เพื่อที่ทางภาครัฐจะได้นำเงินไปสร้าง ปรับปรุงและพัฒนาถนนหนทางต่างๆ ให้ดีและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ก็ถือเป็นบริการรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ประชาชนได้รับความรวดเร็วในการดำเนินการมากกว่าในอดีต ยิ่งในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน การดำเนินธุรกรรมในรูปแบบนี้ก็ยิ่งสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น